พลังงานความร้อนและไฟฟ้า
พลังงานความร้อนและไฟฟ้า
1. ติดตั้งฉนวนกันความร้อนบนฝ้าเพดานบ้าน
เพื่อลดความร้อนและทำให้บ้านเย็น
2. ตั้งตู้เย็นไว้ในที่ที่ใกล้กับประตูหน้าต่าง
เพื่อความร้อนที่ระบายออกมาจะได้ไม่สะท้อนกลับไปในห้องครัว และยังช่วยประหยัดไฟอีกด้วย
3. ในฤดูหนาวควรเปิดหน้าต่างให้ความเย็นเข้ามาในห้องตอนกลางคืน
และปิดหน้าต่างตอนเช้า เพื่อให้ความเย็นภายในห้อง ไม่ถูกแทนที่ด้วยความร้อนจากแสงแดดตอนกลางวัน
4. คุณสามารถลดความร้อนในบ้านได้ถึง 50%
หากติดกระจกแบบสองชั้น เพราะจะสามารถกันความร้อนได้
และช่วยคุณประหยัดไฟฟ้าได้อีก
5. เปิดแอร์ที่ 25 องศาเสมอ
เพราะเป็นอุณหภูมิที่สบายที่สุด ที่คุณไม่ต้องนอนห่มผ้าตากแอร์เลย
6. ติดตั้งระบบไฟฟ้าหมุนเวียนภายในบ้าน
7. เลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าเกรด A ที่ไม่กินไฟ
8. เปลี่ยนมาใช้หลอดไฟฟ้าแบบประหยัดไฟ
9. อย่าใช้เครื่องปั่นผ้าในวันที่ฟ้าใส
และแดดจัด เพราะอุณหภูมิของโลก สูงพอจะทำให้ผ้าแห้งได้ภายในไม่กี่ชั่วโมงอยู่แล้ว
10. เสื้อผ้าน้อยชิ้นควรซักเองด้วยมือ
ส่วนเครื่องซักผ้าควรใช้ในวันที่มีเสื้อผ้าเต็มตะกร้า
11. หากคุณต้องเปิดไฟในสวนหน้าบ้านทุกคืน
ควรใช้ไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ที่ชาร์จพลังงานตอนกลางวัน และเปิดไฟตอนกลางคืน
12. ถอดสายชาร์จโทรศัพท์มือถือออกจากเบ้าเสียบทุกครั้งที่ชาร์จเสร็จ
เพราะมันกินไฟโดยเปล่าประโยชน์
พลังงานน้ำ
13. ตรวจสอบรอยรั่วของท่อประปา
หรือรอยรั่วก๊อกน้ำแล้วอุดรอยรั่วนั้นให้เรียบร้อย
อย่าปล่อยให้มันหยดทิ้งแม้น้อยนิดก็ตามที
14. หากคุณจะต้มน้ำ
ควรใช้หม้อต้มน้ำที่พอดีกับปริมาณน้ำที่ต้องการใช้ เพราะขนาดภาชนะที่ใหญ่เกินไป
มักจะทำให้เราใช้น้ำเกินความต้องการเสมอ
15. เวลาที่ชงชา
ต้มน้ำในปริมาณที่คุณจะใช้เท่านั้น แม้มันจะดูน้อยนิดเกินไป แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าปล่อยให้น้ำร้อนที่เหลือจากการชงชาค่อย
ๆ เย็นโดยไม่ได้ใช้อะไรเลย
16. ปิดก๊อกน้ำทุกครั้งขณะที่คุณกำลังแปรงฟัน
17. ใช้ถังชักโครกที่ประหยัดน้ำ
เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องเปลืองน้ำไปกับการชำระล้างโถส้วม เกินความจำเป็น
18. ใช้ฝักบัวอาบน้ำแทนการนอนแช่น้ำในอ่าง
เพราะมันเปลืองน้ำกว่ามาก ๆ
อาหารและตู้เย็น
19. ตั้งตู้เย็นให้ห่างจากผนังด้านละประมาณ 15 เซนติเมตร เพื่อให้ได้ระบายความร้อนได้สะดวก
20. ละลายน้ำแข็งในตู้เย็นเป็นประจำ
21. อย่าเปิดตู้เย็นทิ้งไว้เป็นเวลานานเกินไป
เพราะจะทำให้ความเย็นระบายออกมาหมดและทำให้ตู้เย็นทำงานหนัก กินไฟมาก
22. ไม่ควรนำอาหารอุ่น ๆ
หรือร้อนแช่ตู้เย็นเป็นอันขาด ควรวางไว้ให้เย็นก่อนแล้วค่อยนำเข้าตู้เย็นอีกครั้ง
23. ซื้ออาหารที่มีในท้องถิ่น
เพื่อที่คุณจะได้ไม่ต้องซื้อในปริมาณเยอะ ๆ
แล้วนำมาตุนไว้ในช่องแช่แข็งจนไม่มีที่ว่าง
พลังงานขณะขับรถ
24. วางแผนการเดินทางทุกครั้งก่อนออกรถ
เพื่อจะได้ไม่ต้องขับวนไปวนมาคิดซ้ายคิดขวาว่าจะไปทางไหนดี
25. ขับรถด้วยความเร็วที่คงที่เสมอ
ที่สำคัญไม่ควรขับเร็วเกินความจำเป็นด้วย
26. ควรสตาร์ทเครื่องยนต์ไว้สักครู่
ก่อนออกรถ
27. ในกรณีที่รถติดไฟแดงในแยกที่รถติดนานกว่า
2 นาทีขึ้นไป ควรดับเครื่องยนต์ก่อนแล้วค่อยสตาร์ทใหม่
28. ไม่ควรเปิดแอร์ในรถเย็นเกินไป
ใช้อุณหภูมิที่พอเหมาะเท่านั้น
29. หากต้องเดินทางไปสถานที่ใกล้ ๆ
ที่ห่างจากบ้านไม่เกิน 5 กิโลเมตร
ควรใช้วิธีเดินหรือปั่นจักรยานดีกว่า
30. อุปกรณ์แต่งรถหลาย ๆ อย่าง
สามารถกินพลังงานเกินความจำเป็นได้ เช่น เครื่องวัดอุณหภูมิ เครื่องบอกทาง เป็นต้น
31. นำรถเข้าอู่เป็นประจำ
เพื่อเช็คสภาพและการทำงานต่าง ๆ ของรถ
พลังงานขณะทำงาน
32. แม้ว่าคุณจะไม่ได้จ่ายค่าไฟที่ทำงานเอง แต่ก็ควรใช้ไฟเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
โดยปิดไฟดวงที่ไม่ใช้หรือในห้องที่ไม่มีใครอยู่ เพื่อช่วยโลกประหยัดไฟ
33. ปิดหน้าจอคอมพิวเตอร์เมื่อคุณต้องลุกออกไปที่ไหนนาน
ๆ เช่น ทานข้าว ไปประชุม หรือแม้แต่ออกไปยืดเส้นยืดสาย
34. ใช้กระดาษทั้งสองหน้า
อย่าใช้เพียงด้านใดด้านหนึ่งเท่านั้น
35. หากสามารถเปิดหน้าต่างได้
ควรหลีกเลี่ยงการเปิดแอร์ในวันที่อากาศสบาย ๆ
36. ควรใช้ลิฟต์ในออฟฟิศพร้อม ๆ กับคนอื่น
ขณะเดียวกัน คุณสามารถเดินขึ้นบันไดได้หากห้องทำงานของคุณไม่ได้อยู่สูงถึงชั้น7
37. สำหรับข้อมูลบางอย่างที่สามารถอ่านผ่านคอมพิวเตอร์ได้
บางครั้งคุณก็ไม่จำเป็นต้องปรินท์เอาท์ออกมา
และ นี่ก็คือวิธีง่าย ๆ ในการช่วยลดโลกร้อนที่ไม่ว่าใคร ๆ ก็ทำได้ ดังนั้น หากคุณเป็นคนหนึ่งที่ตระหนักถึงคุณค่าของพลังงานและภาวะโลกร้อน เริ่มต้นประหยัดพลังงานกันตั้งแต่วันนี้นะคะ อย่างน้อย ๆ ก็ช่วยยืดเวลาให้โลกไม่ร้อนไปกว่านี้ได้ไม่น้อยเลยล่ะ
ที่มา http://www.thaicondoonline.com/knowlage/468-manual-simple-way-to-reduce-global-warming