เตรียมตัวสมัครงาน


หางาน สมัครงาน หางานทำ
การสมัครงาน
การสมัครงาน
1.    มีบุคลิกภาพที่ดี เมื่อพบกันครั้งแรก
2.    ต้องให้เกียรติผู้ร่วมงาน ไม่ว่าจะมีอายุน้อยกว่าหรือไม่
3.    ต้องอ่านเอกสารให้ดี ก่อนจะตั้งคำถาม
4.    ไม่ร้องขอการปฎิบัติที่พิเศษกว่าคนอื่น ๆ
5.    มั่นใจว่าทราบถึงงานที่จะได้ทำ
6.    ไม่ถามถึงค่าจ้าง เว้นแต่ผู้สัมภาษณ์เอ่ยถึง

การสัมภาษณ์งาน
1.    ต้องไปก่อนเวลานัดอย่างน้อย 15 นาที
2.    แต่งกายสุภาพถูกต้องตามกาลเทศะ
3.    ไม่มีอาการป่วย
4.    ตาต้องมองผู้สัมภาษณ์ตลอดเวลา
5.    ใช้คำพูดที่ฟังเข้าใจง่าย
6.    เตรียมตัวมาตอบคำถาม
7.    ไม่ขี้อาย ต้องกล้าแสดงออก
8.    ไม่เสแสร้ง มีความจริงใจ
9.    ควบคุมมือให้ดี
10.    บอกค่าจ้างที่คาดว่าจะได้ โดยไม่หลอกตัวเอง
11.    จำชื่อผู้สัมภาษณ์และควรขอนามบัตรไว้
12.    เก็บเก้าอี้ที่นั่งเข้าที่เดิม
 เป็นที่น่าสังเกตว่าคนไทยมักไม่เลื่อน เก้าอี้กลับเข้าที่เดิมหลังจากลุกขึ้น จากเก้าอี้ 
****ลองสังเกตดู นะคะ เราไม่ได้รับการสอนในเรื่องนี้มา****
 
วันแรกของการทำงาน
1. ไม่ไปทำงานสาย
2. ทักทายทุกคน
3. ทานอาหารเที่ยงกับเพื่อนร่วม
   งาน เพราะจะได้ทราบความเป็
   ไปขององค์กร เพื่อนร่วมงาน ฯลฯ
4. อ่าน และพร้อมที่จะถาม
5. นำงานที่ทำเสร็จแล้วให้หัวหน้าดู
6. ของานมาทำโดยไม่ต้องรอ
ชีวิต การทำงานต้องเก็บความลับเรื่องเงินเดือนไว้ 
อันนี้เป็นมารยาทที่คนไทยไม่ค่อยมีอีกเหมือนกัน เพราะความอยากรู้อยากเห็นที่มักจะถามเรื่องเงินเดือนที่ได้รับ  ที่สำคัญคือต้องขออนุญาตทุกครั้งที่ลา  ขอความช่วยเหลือ  ขอความเป็นส่วนตัว  ขอใช้ทรัพย์สินของผู้ร่วมงาน และขอใช้สิทธ์ที่ไม่ได้รับอนุญาต ถ้าทำผิดต้องขอโทษ ต้องมีศิลปะในการใช้ภาษาอย่างดี มีมารยาทและสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้ร่วมงาน คิดบวก พูดบวกและทำบวก มีจุดยืน มีความรับผิดชอบ ค้นหาสาเหตุของความผิดพลาด รักษาความลับ ศึกษาเจ้านาย เรียนรู้ผู้อื่นและเข้าใจ   เจ้านายของคุณต้องรู้ความผิดพลาดและข้อบกพร่องของคุณเป็นคนแรก พัฒนาตนเองโดยไม่คำนึงถึงผลตอบแทน 

จงหลีกเลี่บง
1.    การขอให้ผู้อื่นทำงานแทนโดยไม่ได้แจ้งหัวหน้า
2.    การตำหนิผู้อื่นโดยตรง
3.    การนินทาหรือแทงคนข้างหลัง
4.    การทำเป็นเข้าใจ แต่ไม่เข้าใจ
5.    การหัวเราะในความผิดพลาดของผู้อื่น
6.    การทำตนเป็นผู้หวังดีแต่ประสงค์ร้าย
7.    การเป็นคนขี้ขลาด
8.    การมีอคติ
มารยาทในการรับโทรศัพท์
1.    รับเมื่อมีเสียงเรียกภายใน 3 ครั้ง
2.    ยิ้ม
3.    กล่าวคำทักทาย บอกชื่อผู้รับและสถานที่
4.    กรณีรับฝากข้อความ ต้องถามชื่อผู้โทรฯมา บันทึกชื่อ ข้อความ วันที่ เวลา
5.    กล่าวคำสวัสดี
6.    รอให้ผู้โทรฯมาวางสายก่อน


การ เปลี่ยนงาน
1.    อย่าเลือกงานที่เรารัก ให้รักงานที่ทำ
2.    เมื่อพบทางตันให้ถามตัวเอง 3 ป. เปลี่ยนเขา เปลี่ยนเราหรือเปลี่ยนแปลง
3.    หัวหน้าควรเป็นคนแรกที่รู้เรื่องการเปลี่ยนแปลง
4.    อย่าพูดหากยังไม่แน่ใจ
5.    อย่ากลัวเสียหน้า แต่จงหาทางแก้ไข
6.    วางแผนและให้เกียรติองค์กรเสมอ


การลาออกจากงาน
1.    อย่าหายไปเฉย ๆ จากองค์กร
2.    ควรเข้าไปพูดกับหัวหน้าก่อนส่งจดหมายลาออก
3.    เขียนจดหมายลาออกอย่างเป็นทางการ
4.    บอกเหตุผลในการลาออก
5.    แสดงความรับผิดชอบในงานจนถึงวันสุดท้ายของการทำงาน
คำถามยอดฮิต ในการ สัมภาษณ์งาน
10 คำถาม ที่เค้านิยมจะถามกัน โดยมากที่คุณ ควรจะเตรียมพร้อม เพราะอย่างน้อย ถ้าไม่ได้คำถามอื่น ก็ยังพอมีคำถามที่เราตอบแล้ว ฟังดูเข้าท่าเข้าทางบ้าง ฉะนั้นคำถามที่คุณควรจะรู้มีดังต่อไปนี้


1.
ทำไมคุณจึงอยากทำงานที่นี่

การที่จะทำงานทีไหนก็ตามผู้สัมภาษณ์จะต้องถามความเป็นมา ว่าทำไม คุณต้องการ ที่จะทำงาน ในบริษัทของเค้าและคำถามนี้ก็เป็น สิ่งที่คุณควร ทราบ และคุณก็ควรจะรู้ถึงเหตุผลของคุณอย่างแท้จริงไม่ไช่ตอบไปสุ่มสี่สุ่มห้าเช่นคุณอาจจะตอบว่า

'
ดิฉันมีความสนใจในระบบการทำงานของที่นี่มากและก็ทราบมาว่า ทางบริษัท ได้เปิดโอกาสให้พนักงานทุกคน ได้แสดงความสามารถได้อย่างเต็มที่ค่ะ และดิฉันยังทราบมาอีกว่า ที่บริษัทรับฟังข้อเสนอของพนักงานทุกคน และ พร้อมจะแก้ไขถ้าข้อเสนอนั้น จะสามารถ พัฒนาให้บริษัทให้มีความมั่นคงและหน้าเชื่อถือยิ่งขึ้นค่ะ'

2.
ทำไมคุณถึงออกจากงานที่เคยทำอยู่

คำถามนี้จะง่ายมากสำหรับน้อง ๆ ที่ยังไม่เคยทำงานมาก่อน แต่จะเป็นคำถาม ที่ยากมาก สำหรับคนที่เคยมีประสบการณ์ ในการทำงานมาแล้ว และเป็น คำถามที่ตรงประเด็น มากเลยทีเดียวเพราะหากคุณพอใจ ต่องานที่ทำอยู่ คุณคงไม่ต้องหางานใหม่ ทำหรอกจริงไหมล่ะคำถามนี้จึงเป็นคำถาม ที่คุณ ต้องเตรียมตัวอย่างมาก เลยทีเดียวตัวอย่างเช่น

'
ผมอยากจะเรียนรู้ถึงงานสายใหม่ ที่น่าจะเหมาะสมกับตัวผมมากกว่า ที่ผม เคยทำอยู่ครับ และผมคิดว่างานที่นี้ เหมาะสมกับผม และผมพร้อมที่จะทำงาน ตรงนี้มากที่สุด'

และที่สำคัญ คุณห้ามนำข้อเสียที่คุณได้รู้จาก บริษัทเก่า มาพูดเด็ดขาด เพราะสิ่งนั้น อาจทำให้คะแนนแห่งความเชื่อถือ ของคุณ ลดลงก็ได้

3.
ลองเล่าประวัติของคุณแบบย่อ

การที่จะทำงานร่วมกันได้นั้น สิ่งที่สำคัญ ก็จะเป็นเรี่อง ข้อมูลส่วนตัวประวัติ ความเป็นมา เล็ก ๆ น้อย ๆ ที่สามารถบ่งบอกถึง นิสัยใจคอของคุณได้ และสามารถบอกถึง ความเหมาะสม กับงานด้านนี้ของคุณ ในการตอบคำถาม จึงควรอยู่ในแง่ของการทำงาน บุคลิกภาพส่วนตัว และแง่คิดของชีวิต บ้างนิดหน่อยคุณไม่ควรจะเล่าประวัติชีวิตของคุณให้มากเกินไป เพราะการพูดมากเกินไปอาจจะทำให้เกิดผลเสียแก่ตัวคุณเอง เช่น

ผมเป็นคนเคารพเวลา ไม่ชอบให้ใครรอเพราะฉะนั้นเวลาในการ ทำงานของผม จะตรงต่อเวลาเสมอ แต่ผมก็มีข้อเสียนะครับ คือเวลาที่ผมรอใคร แล้วคนคนนั้น ไม่มาสักที ผมก็มักจะควบคุมอารมณ์ ของตัวเองไม่ค่อยได้ทั้ง ๆ ที่เหตุผลของเค้า เป็นเหตุผลที่น่าฟังมาก ก็ตามและตอนนี้ผมกำลังหาวิธี เพื่อแก้ไขข้อบกพร่องของผมอยู่ครับ'

4.
คุณคิดจะทำอะไรให้กับบริษัทมากที่สุด

คำถามนี้จะทำให้คุณบอกถึงความสามารถของคุณ ที่จะทำให้กับบริษัท ได้มากน้อยแค่ไหน ในการบอกถึงคุณสมบัติที่คุณสามารถทำได้นั้น ไม่ถือว่า เป็นการโอ้อวดว่า คุณเก่งแต่อย่างไรแต่สิ่งที่คุณพูดนั้น จะสามารถสร้าง น้ำหนักในการตอบคำถามให้แก่คุณได้

5.
จะมีปัญหาอะไรไหมหากต้องทำงานล่วงเวลา

เจอคำถามนี้เข้าก็ทำให้อึ้งเอาการ อยู่ทีเดียว ก็แหมใครอยากจะไป ทำงาน ล่วงเวลา หากไม่ได้อะไรตอบแทนบ้างเลย ฉะนั้นในการตอบคำถามนี้ คุณควรจะกล่าวถึง ความพร้อมเสมอในการทำงานล่วงเวลา ถึงแม้ว่า ค่าตอบแทน อาจจะน้อยมาก หรือในการทำงานล่วงเวลาจะไปตรงกับ ตารางนัดสำคัญกับคนพิเศษของคุณก็ตาม

'
เพื่อให้งานประสบความสำเร็จ ผมก็พร้อมจะทำงานล่วงเวลาเสมอ'

6.
เรื่องทั่ว ๆ ไป

ในการสัมภาษณ์คุณอาจจะต้องพูดถึเรื่องปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็น ข่าวทาง การเมือง เศรษฐกิจ สังคม และค่านิยมที่เกิดขึ้นในเวลานั้น เป็นข่าว หนังสือพิมพ์ คำถามนี้จะแสดงให้เห็นว่าคุณให้ความสนใจกับข่าวสาร บ้านเมือง ไม่เป็นคนที่ตกข่าว สามารถพูดคุยได้ทุกเรื่องที่เกี่ยวกับ เหตุการณ์ปัจจุบัน การทราบข้อมูลเหล่านี้ อาจทำให้คะแนน การสัมภาษณ์ของคุณเพิ่มขึ้นมาก็ได้

7.
ความใฝ่ฝันและโครงการในอนาคต

เป็นการพิจารณาถึงความเอาจริงเอาจังของคุณ เพราะหากคุณสามารถบอกถึง ทิศทางในอนาคตได้นั่นก็แสดงว่าคุณสามารถรับผิดชอบ ในงานที่ได้รับ มอบหมายอย่างดีทีเดียวก็ขนาดอนาคตที่ไม่มีใคร สามารถรู้ได้ คุณยัง วางแผนสู่อนาคต ได้อย่างเป็นระบบนั่นก็หมายถึงว่า คุณไม่ได้มีความคิด ย่ำอยู่กับที่จริงไหม

8. 
คุณมีงานอดิเรกอะไรไหม

คำถามในข้อนี้จะเจาะประเด็นว่าคุณรู้จักแบ่งเวลาของคุณ ให้เกิดประโยชน์ มากน้อยแค่ไหน และแสดงให้เห็นถึงบุคลิกของคุณว่า คุณเป็นคนอย่างไร ร่าเริง เปิดเผย หรือเก็บตัว เช่น ถ้าคุณตอบว่าคุณชอบอ่านหนังสือ คุณอาจจะ ถูกถาม ต่อว่า หนังสือเล่มล่าสุดที่คุณอ่านคือเรื่องอะไร และอาจให้คุณวิจารณ์ ถึงหนังสือเล่มนั้น ในการถามคำถามนี้ยังสามารถได้รู้ถึง ความละเอียด อ่อนของคุณ การรู้จักสังเกต การมีปฏิภาณไหวพริบกระทั่ง การใช้ชีวิต ร่วมกับคนอื่น ๆ อีกด้วย

9. 
คุณต้องการเงินเดือนเท่าไหร่

เป็นเรื่องที่ยากมาก ในการตอบคำถามนี้ถ้าหากว่า งานที่คุณไปสมัคร ระบุ เงินเดือนไว้แล้ว ก็เกิดความสบายใจหน่อยแต่ถ้าไม่ได้ระบุถึง อัตรา ค่าจ้างเลย ก็แย่หน่อย ทางที่ดีคุณควรตอบตามอัตราเงินเดือน ที่คนทั่วไป ได้รับกัน เช่น อาจจะถามเพื่อน ที่ทำงานเหมือนกับตำแหน่ง ที่คุณสมัคร หรือตอบตาม เงินเดือนราชการ ที่คุณทราบก็ได้แต่ถ้าหากผู้สัมภาษณ์ เสนอเงินเดือน มาสูง หรือต่ำกว่า อัตราที่คุณรู้คุณก็อย่าพึ่งตอบตกลง คุณอาจจะขอเวลาในการ พิจารณาสัก วัน แล้วค่อยให้คำตอบเพราะถ้า เกิดคุณตอบตกลงไปแล้ว และคุณมาขอขึ้นทีหลังก็เหมือนกับว่า คุณเป็นคนโลเลไม่น่าเชื่อถือก็ได้

10. 
คุณมีข้อสงสัยอะไรอีกไหม

เจอคำถามนี้ก็บ่งบอกว่า การสัมภาษณ์ได้สิ้นสุดลงแต่ในการตอบคำถาม ข้อสุดท้ายนี้ จะตอบอย่างไรดี ที่จะแสดงว่าเราไม่เป็นคนไม่ฉลาดออกมา เช่น คุณอาจถามย้ำเรื่องเวลาการทำงานก็ได้  'ผมอยากทราบเวลา ที่แน่นอนในการทำงานของผมครับ' หรือคุณอาจจะไม่ต้องการถามอะไรก็ได้ เพราะการไม่ได้ถามก็เท่ากับว่า คุณได้ทราบข้อมูล ของบริษัทมากพอแล้ว แต่ถ้าเกิด สงสัยจริง ๆก็ควรตั้ง คำถามที่ฟังแล้วดูดี และถูกใจนายจ้างของคุณให้มากที่สุด

คำถามที่พูดมาข้างต้นนี้ดู ดูแล้วไม่ยากเลยใช่ไหมสำหรับการเตรียมตัว ในการ สัมภาษณ์ของคุณ แค่คุณมีความพร้อมกับ 10 คำถามเด็ด ๆ นี้คุณก็สามารถ ชนะใจ กรรมการ ได้แล้ว อย่างน้อยมันคงมีสักคำถามล่ะที่ตรงกับการเตรียมตัวของคุณ และสร้าง ความมั่นใจ ในการตอบคำถามของคุณได้แล้วอย่าลืมนำไป ปฏิบัติดูนะ เพราะสิ่งนี้ เป็นเส้นทาง ที่จะทำให้คุณสามารถได้รับคัดเลือกเป็นพนักงาน ในบริษัทที่คุณใฝ่ฝัน ได้อย่างภาคภูมิใจ

      การแต่งกายไปสมัครงานหรือสอบสัมภาษณ์ อาจมองดูเป็นเรื่องง่ายสำหรับคุณสาวๆ ที่เจนเวทีทั้งหลายที่ทราบว่าจะเลือกเสื้อตัวนี้ให้เหมาะกับกระโปรงตัวนั้น ผมต้องทำทรงนี้ เครื่องประดับต้องใส่ชิ้นเล็กหรือชิ้นใหญ่จึงจะดูดี มีบุคลิกที่เป็นตัวของตัวเอง แต่ยังมีคุณสาว ๆ อีกไม่น้อยที่อาจจะนึกภาพไม่ออกว่าควรแต่งกายอย่างไรดี หรือในบางคนก็มั่นใจใส่กระโปรงสั้น ผ่าหน้า ผ่าหลัง เสื้อรัดรูปโชว์หุ่นอันแบบบาง ขอบอกว่าไม่ควรค่ะไม่ควร ผู้รับสมัครอาจมองว่าคุณหุ่นดี แต่ในใจอาจตำหนิว่าที่นี่ไม่ใช่เวทีแคทวอล์คของนางแบบหรือบรรดานางงามทั้งหลาย นั่นอาจจะทำให้คุณพลาดโอกาสอันงามไปโดยไม่รู้ตัว

  • ความมั่นใจน่ะมีได้เป็นสิ่งที่ดี แต่ทั้งนี้อย่ามองข้ามกาลเทศะไปเชียวนะคะ ชุดที่สวมใส่ควรเป็นชุด 2 ชิ้น แยกท่อนบน ท่อนล่าง จะดูเป็นทางการและทะมัดทะแมงมากกว่าชุดแซ็คชิ้นเดียวนะคะ ถ้าหากสถานที่ที่คุณไปสมัครนั้น เป็นองค์กรหรือหน่วยงานที่ค่อนข้างมีพิธีรีตรองมาก เสื้อเชิ้ตเรียบ ๆ ตัวเดียวอาจจะยังไม่ดูเป็นทางการพอ แนะนำให้สวมทับด้วยสูทหรือแจ็คเก็ตผ้าแบบเรียบ ๆ (ที่ไม่ใช่ผ้ายีน) สีดำ สีเทา สีเบจ หรือสีครีม จะช่วยเน้นบุคลิกภาพที่เรียบสง่าและดูดี ไม่-ควรเป็นสูทตัวโคร่ง ๆ แนะนำให้เลือกสูทเข้ารูปแบบเก๋ ๆ สักตัว จะทำให้คุณดูเป็นสาวมาดมั่นมากกว่าสูทตัวโคร่งสำหรับสาวโบราณอย่างแน่นอนค่ะ แนะนำเสื้อสูทำงานสวยๆที่นี่ครับ
  • พวกรองเท้าสวมเปลือยส้นไม่มีสายรัดข้อเท้าเก็บใส่กล่อง เอาไว้ก่อน หันมาสวมรองเท้าคัชชูปิดนิ้วเท้า จะเป็นการสุภาพกว่าหลายท่านอาจร้องยี้ว่าเหมือนคุณครู ไม่จริงหรอกค่ะเดี๋ยวนี้แบบเรียบแต่มีสไตล์วางจำหน่ายอยู่ดาษดื่น ลองเลือกสวมใส่กันดูนะคะ
  • กระเป๋าควรเลือกที่ดูไม่แฟชั่นจนเกินไป ใบไม่ใหญ่เกินพอดี เพราะอาจทำให้ดูเกะกะไม่คล่องตัว ที่สีสันแสบสุดเก็บไว้ใช้ในงานปาร์ตี้จะดีกว่า ควรเลือกโทนสีขรึมจะช่วยให้คุณดูน่าเชื่อถือไม่น้อยทีเดียวค่ะ
  • เครื่องประดับประเภทห้อยระย้า หรือห่วงใหญ่จนเกินงาม อาจทำให้คุณดูเปรี้ยวจี๊ดมั่นมาดได้ก็จริงอยู่ แต่ถ้าหากจะให้ดูดีเหมาะแก่การไปสมัครงานคงไม่ต้องอลังการมาก แค่เล็ก ๆ แต่ดูดีมีสไตล์ ก็สามารถเอาชนะใจผู้รับสมัครงานไปเกินร้อยแล้วล่ะค่ะ
  • ที่สำคัญคำพูด คำจา ให้อ่อนหวาน อ่อนน้อม ฉลาดฉะฉานในการสนทนา อย่าลืมยกมือไหว้ทักทายกัน จะยิ่งเป็นการเสริมเสน่ห์ให้ตัวคุณอีกแบบเต็มร้อย เพียงเท่านี้… งานที่คุณใฝ่ฝันหาอาจกำลังเอื้อมมือมาเชื้อเชิญคุณแบบไม่ยากเย็นอะไรเลยค่ะ

จาก sanook

 ตัวอย่างจดหมายสมัครงานภาษาอังกฤษ

146/3 Mahidol Road
Sankampang Chiangmai 50000
                                                                                      Jan 1, 2009
 
CANON
123 Bangkok City Tower
Sartorn Road, Wattana, Bangkok 18000
Dear Sirs,
 
                Your advertisement in web site www.chiangmaithailand.tht.in on May 11, 2008, for the position of a Civil Engineering has attracted my attention because I think that my qualifications will be fulfilled your requirements.

                My name is Athipat Soraket. I graduated from Mahidol University in March 2000 and hold a Bachelors degree from the faculty of Engineering, which major in Civil Engineering with CUM-GPA at 3.05. The attached resume will enable you to investigate my working experience, training program that I had in the past. Besides, my special skill experiences are also included.

                My experience especially for working my project (THE STUDY ON THE DEVELOPMENT OF THE PORT OF BANGKOK) has provided me with the opportunity to develop my skill as a problem solver. To be an energetic, responsible, analytical and honest person, I feel that I would be a qualified candidate to work for your company. I am confident that I will be able to perform my duties to your satisfaction.

                I will be able to call for an interview at your convenience. If you need any additional information, please do not hesitate to call me at 081 235467. Enclosed you will find my detailed resume, a degree certificate and two photographs.

 

 
                                                                                                                Yours sincerely,

 

 
                                                                                                      (Mr. Jalearn Khantawong)
Enclosure : Resume
ขอให้ลองตอบคำถาม.'ข้อสอบ' สอบเข้าบริษัทนี้ เพื่อดูมุมมองของคุณเอง
มีบริษัทใหญ่แห่งหนึ่งประกาศรับสมัครพนักงานใหม่  
ตำแหน่ง ได้มีคนมาสมัครมากมายหลายร้อยคน
บริษัทนั้นให้ผู้สมัครทุกคนต้องตอบคำถามหนึ่งข้อซึ่งมีโจทย์ว่า...
 ในตอนดึกคืนหนึ่งที่ฝนตกฟ้าคะนองขนาดหนักมากและคุณกำลังขับรถกลับบ้าน ขณะที่ขับผ่านป้ายรถเมล์
 คุณเห็นคนสามคนที่กำลังรอให้ฝนหยุดและมันก็ดึกเกินกว่าจะมีรถเมล์วิ่งด้วยคนสามคนนั้นคือ 
  1. หญิงชราที่กำลังป่วยหนักและต้องการการรักษาด่วน มิฉะนั้นเธออาจจะตายได้

  2. หมอซึ่งครั้งหนึ่งเคยช่วยชีวิตคุณไว้
  3. 
ผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งเป็นแฟนของคุณและคุณรักเขามากขนาดจะต้องแต่งงานกับเธอให้ได้
 เงื่อนไขมีอยู่ว่า...รถคุณเป็นแบบนั่งได้แค่สองคน ดังนั้นคุณจะรับคนไปได้แค่คนเดียวเท่านั้น  
คำถามก็คือว่าคุณจะรับใครและเพราะเหตุใดจึงตัดสินใจเช่นนั้น

 เชิญพวกเราที่กำลังอ่านอยู่นี้ลองให้เหตุผลดูและติดตามดูว่าจะตรงกับความคิดแบบไหน
เหตุผลข้างล่างนี้เป็นเหตุผลของคนเกือบทุกคน
 1. 
ถ้าคุณตอบว่ารับคนแก่ เหตุผลก็เพราะเขากำลังจะตายถ้าคุณรับไปก็เท่ากับช่วยชีวิตคนได้
 2. 
ถ้าคุณตอบว่ารับหมอเหตุผลก็เพราะเขามีบุญคุณกับคุณและนี่คือเวลาที่จะตอบแทนได้บางส่วน
 3. 
ถ้าคุณตอบว่ารับแฟนคุณเหตุผลก็เพราะเขาเป็นคนที่คุณรัก

แต่ผู้ที่บริษัทนั้นรับเข้าทำงานเป็นผู้เดียวที่ตอบว่า...'เขาจะให้กุญแจรถกับหมอ ให้หมอพาคนแก่ไปโรงพยาบาลและเขาก็จะอยู่ที่ป้ายรถเมล์นั้นกับคนที่เขารัก'เป็นไง ประหลาดใจกับคำตอบใช่ไหมและคิดว่ามันเป็นคำตอบที่ดีมากใช่ไหมข้อคิดของเรื่องนี้ คือ
คนเรามักจะยึดติดและไม่ยอมปล่อยผลประโยชน์ตรงหน้า (กุญแจรถและการกลับบ้าน)ทำให้เรามอง อะไรด้วยมุมมองที่แคบลงจะเห็นว่าการมอบกุญแจรถให้หมอนอกจากจะได้ตอบแทนบุญคุณหมอแล้ว(ซึ่งหมอก็คงไม่ยึดรถไปเป็นของตัวเองหรอกภายหลังก็เอามาคืน)  เรายังได้ช่วยชีวิตหญิงชรา
แถมได้อยู่กับคนที่เรารักแบบสองต่อสองเรียกได้ว่าเสียไปแค่ไม่ได้กลับบ้านในตอนนั้น! แต่เราสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ใหญ่ๆได้อีกทุกอย่าง
คุณล่ะ...คิดว่าคุณมีมุมมองที่กว้างขึ้นหรือยังแคบและยึดติดกับผลประโยชน์ต่างๆ อยู่เหมือนเดิม?
 
Dear Sir,
 
   Your advertisement in web site http://chiangmaithailand.tht.in on May 11, 2001, for the position of a Civil Engineering has attracted my attention because I think that my qualifications will be fulfilled your requirements.
  
   My name is Athipat Soraket. I graduated from Mahidol University in March 2000 and hold a Bachelors degree from the faculty of Engineering, which major in Civil Engineering with CUM-GPA at 3.05. The attached resume will enable you to investigate my working experience, training program that I had in the past. Besides, my special skill experiences are also included.
  
    My experience especially for working my project (THE STUDY ON THE DEVELOPMENT OF THE PORT OF BANGKOK) has provided me with the opportunity to develop my skill as a problem solver. To be an energetic, responsible, analytical and honest person, I feel that I would be a qualified candidate to work for your company. I am confident that I will be able to perform my duties to your satisfaction.

   I will be able to call for an interview at your convenience. If you need any additional information, please do not hesitate to call me at 09-499-0739. Enclosed you will find my detailed resume, a degree certificate and two photographs.
  

Yours sincerely,
 
 
 
Dear Sir/ Mardam,

Please consider me as a...................(Position), I have had experiences in .......................(ทักษะการทำงาน) at....................(company), (Province) as my (part-time/full-time).

I graduated with a Bachelor's Degree in ............, majoring in......... from.......University. I can.....................(Your ability). 

Realizing that this summary, as well as my resume, cannot cover my qualifications in-depth, I would appreciate it if you could grant me an opportunity to discuss with you in person at the most convenience time to yourself.

Lastly, I would like to thank you for your time considering my rough introduction to my potential abilities within your business and I will look forward to hearing from you in the near future if applicable.

Sincerely yours,

Miss/Mr...................................
 
ที่มา

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

ติชม


ต้องการให้คะแนนบทความนี้่ ?

สร้างโดย :


kruchi

สถานะ : ผู้ใช้ลงทะเบียน
คอมพิวเตอร์ธุรกิจ