ข่าวสำคัญ

ตอนนี้เราไปดูกันบ้างว่า  ถ้ารถจมน้ำเข้าให้  ไม่ว่าจะจำใจ  จงใจ  ไม่ตั้งใจนั้น  เราควรจะทำอย่างไร

               


                อันที่จริงแล้วผมไม่อยากเขียนนัก  ด้วยว่าไม่อยากให้ใครเที่ยวได้เอารถยนต์ไปหล่นตูมตามลงในน้ำลึก  และไม่ได้อยากเห็นใครมีปัญหาเมื่อรถจอดอยู่กับที่แล้วน้ำไม่รักดีบ่าเข้าไปท่วมรถ  แต่อ่านข่าวที่เดี๋ยวนี้ชัก ไม่ค่อยอยากอ่านเท่าไร  ด้วยว่ามีแต่เรื่องน่ากลุ้มใจไปหมดไม่ว่าบ้านเราหรือบ้านเมือง  ก็ยังได้พบข่าวน้ำท่วมประปราย  เลยจับเอาอาการแก้ไขหลังน้ำท่วมรถขึ้นมาเล่าสู่กันฟังเสียตรงนี้ล่ะครับ


 


 


                แรกทีเดียว  อย่าพยายามรีบร้อนติดเครื่องยนต์รถที่เพิ่งเอาขึ้นจากน้ำหรือน้ำลดลงไปจากการท่วมมิดเครื่องยนต์เป็นอันขาด  เพราะน้ำที่อัดอยู่ในเครื่องยนต์อาจจะทำให้ก้านสูบกับก้านกระทุ้งวาล์วในกรณีที่เป้นรถโบราณเช่นโฟล์กสวาเกน  เต่าทองนั้น  คดงอได้เลยทีเดียว 


 


 


                อย่าพ่วงไฟเพื่อติดเครื่องยนต์รถที่ไหม่กว่ารุ่นปี ค.ศ. 1989  หรือ พ.ศ. 2532  ขึ้นมา  ด้วยว่านั้นจะเปิดโอกาสให้แอลเทอร์เนอเตอร์ซึ่งมักจะเรียกกันง่าย ๆ ว่า ไดชาร์จ  และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์นานาประดามีในรถไหม้เสียหายได้


 


 


                ก่อนที่จะเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่  หรือเอาแบทเตอรี่ไปอัดไฟให้เต็มอีกทีแล้วเอามาใช้  หรือพูดให้ชัดก็ได้ว่า  ต่อขั้วแบตเตอรี่เข้ากับรถอีกครั้งหลังจากพ้นน้ำแล้วนี่  ปลดฟิวส์ของระบบถุงลมนิรภัยเพื่อไม่ให้ทำงานขึ้นมาได้ในระยะแรกนี้ก่อน  ด้วยว่าถ้าวงจรไฟฟ้าในระบบถุงลมนิรภัยเกิดลงดินหรือชอร์ตกันได้แล้วล่ะก็  ถุงลมระเบิดตูมแบบว่าทำงานให้ใช้ได้ขึ้นมาเฉย ๆ เสียของไปปล่า ๆ หลายหมื่นทีเดียวนะครับ


 


 


            ปกติเมื่อรู้ว่ารถจะจมน้ำ  เราก็ควรถอดสายไฟยกแบตเตอรี่ขึ้นที่สูงบนบ้านบนเรือนก่อน  ถ้าทำไม่ทันแบตเตอรี่จมน้ำอยู่ก็จะหมดไฟไปก่อนที่จะเข้าทำให้เกิดกระแสลัดวงจรทที่เสียหายเพราะน้ำได้  แต่เมื่อน้ำแห้งแล้ววงจรอาจจะลงดินอยู่  มีกระแสเข้าไปเมื่อไรลัดวงจรเมื่อนั้น  จึงควรรีบถอดสายแบตเตอรี่ออกทันทีที่รถพ้นน้ำ  ถ้าไม่ได้เอาแบตเตอรี่ออกไปเสียก่อน  โดยเฉพาะรถที่ตกน้ำลงไปโดยไม่ได้ตั้งใจนั่น


 


 


                ที นี้  เมื่อปล่อยให้วงจรอุปกรณ์หลายอย่างแห้งแล้ว  ก็ปลดฟิวส์ของวงจรที่มั่นใจได้ออกเสียก่อน  เช่นวงจรถุงลมนิรภัยเป็นต้น


 


                ตรวจรถยนต์ที่เพิ่งพ้นน้ำของคุณให้ถี่ถ้วน  ถ้าพบน้ำในที่เขี่ยบุหรี่  ก็เชื่อเอาไว้ก่อนว่า  น้ำคงเข้าไปถึงระบบไฟฟ้าบนหน้าปัด  เช่น  มาตรมัดต่าง ๆ และสวิตช์ได้    และดดยที่วงจรเหล่านี้มักจะทำเป้นแผงจึงสามารถทำความสะอาดและแห้งเอามาใช้ได้ใหม่อีก  แต่ตามที่ปรากฏกันมาก็คือคุณมักจะพบปัญหาของวงจรในการใช้งานต่อไปภายหน้า  และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่จมน้ำหรือเปียกน้ำนี้  อายุการใช้งานหลังจากนั้นจะค่อนไปทางข้างสั้น


 


 


                อย่าไปหวังอะไรให้มากนักเลยครับ  นอกเสียจากจะเปลี่ยนกันใหม่หมด  แพงอีกใช่ไหมล่ะ


 


                เกียร์อัตโนมัติกับทอรืกคอนเวิร์ตเตอร์  ต้องได้รับการล้างเอาน้ำมั่นและน้ำออกให้หมด  เช่นเดียวกับเฟืองท้าย  หรือส่วนมากในตอนนี้จะไปอยู่ข้างหน้าแล้ว  กับพวกทรานสเฟอร์ของระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ  ด้วยว่าทั้งสองอย่างนี้มีรูระบายอากาศน้ำจึงเข้าไปทางนั้นได้  ก็ต้องทำอย่างเดียวกับเกียร์อัตโนมัติ


 


 


                เพลาขับที่ยางหุ้มเพลาขาด  น้ำจะเข้าไปนำเอาจารบีออกไป  ต้องอัดจารบีใหม่และเปลี่ยนยางหุ้มเพลาด้วย


 


 


                อีกอย่างหนึ่งที่มองข้ามไม่ได้  เมื่อตรวจเกี่ยวกับระบบส่งกำลังนี่คือลูกปืนล้อทั้งหน้าและหลังที่มีอยู่ในรถทั่วไป   ต้องนำออกมาล้างอัดจารบีใหม่  ใส่กลับคืนที่ด้วยการปรับใหม่ให้แน่นตามลำดับไม่แน่นเกินไปจนล้อหมุนฝืด


 


 


                ล้างและเปลี่ยนน้ำระบายความร้อน  เอาโคลนเลนที่ติดอยู่ตามรังผึ้งหม้อน้ำออกให้หมด  ใส่น้ำยาลดความร้อน  หล่อลื่น  และรักษาโลหะลงผสมในน้ำระบายความร้อนใหม่อีกครั้งให้ได้ตามลำดับที่กำหนด


 


 


                การกำหนดอัตราส่วนผสมน้ำยากับน้ำในระบบระบายความร้อนนี้ที่กระป๋องหรือขวดน้ำยาจะมีบอกชัดเจน  ถ้าเป็นฟอร์ดก็จะมีป้ายบอกไว้ที่ระบบหรือหม้อน้ำสำรอง  โดยให้ใช้น้ำยาของฟอร์ด  50 %  กับน้ำสะอาด  50 %   เป็นต้น


 


 


                การใช้น้ำยาสีเขียว  ราคาประหยัด  ใส่เพียงกระป๋องเดียวหกเจ็หดสิบบาทนั่น  ช่วยอะไรทางด้านการลดความร้อนและการสึกกร่อนของอะลูมิเนียมผสมในเครื่องยนต์ไม่ได้หรอกครับ  เรื่องแบบนี้ไม่ควรประหยัดเพราะจะเป็นการเสียน้อยเสียยากเสียมากเสียง่าย  เมื่อถึงเวลาต้องซ่อมเครื่องยนต์ด้วยค่าใช้จ่ายหลาย ๆ หมื่นบาท


 


 


                อย่างน้อยก็ต้องล้างทำความสะอาดภายนอกของระบบห้ามล้อเปลี่ยนน้ำมันเบรก  และหากแช่น้ำอยู่นานก็อาจจะต้องถึงขนาดซ่อมใหญ่เบรกทั้งระบบกันเลยก็ว่าได้  ตรงนี้ไม่ต้องถึงรถจมน้ำทั้งคันหรอกครับ  แค่แช่อยู่ทั้งวันลึกท่วมล้อเท่านั้นก็ได้เรื่องแล้ว


 


                รถกระบะหนึ่งตันที่ชอบลุยน้ำลึก  เพราะเห็นว่าเครื่องยนต์ดีเซล ไม่มีระบบไฟฟ้าจุดระเบิด  ไม่ต้องกลัวน้ำเข้าระบบไฟฟ้าแล้วเครื่องดับนั้น  ถ้าน้ำเข้าเครื่องก็เสร็จเหมือนกัน  หนักกว่ารถเบนซินด้วยซ้ำไป    และเมื่อลุยน้ำลึกมากบ่อยเข้า  น้ำก็เข้าไปในระบบห้ามล้อจนเกิดนิม  และน้ำมันเบรกเน่าเสียไปจนห้ามล้อไม่อยู่ได้นะครับ  อย่าทำเป็นล่นไป


 


 


อันตรายไม่ได้น้อยก่าเขาอื่นหรอก  ถึงจะขับพ้นตรงที่น้ำท่วมได้ด้วยความเร็วจนน้ำกระจายเป็นปีกไปสาดรถอื่นเขาได้สนุกดีนั่นน่ะ    เผลอ ๆ เป็นไข้สารตะกั่วเอาแถวนั้นเลยก็ยังเคยมี


 


                ของที่จมน้ำแล้วอาจจะต้องถึงกับเปลี่ยนเลยทีเดียวก็คือสตาร์ตเตอร์  เพราะน้ำเข้าไปนี่ฝรั่งบอกว่าซ่อมยากเสียเวลา  แต่บ้านเราคงเอาไปให้ช่างไฟฟ้าตามร้านทั่วไปล้างทำความสะอาด  ตรวจเช็กและปรับสภาพใช้ใหม่ได้  ไม่ต้องกับถึงกับต้องเปลี่ยนใหม่  แต่ต้องเอาออกมาทำแน่นอนถ้าจมน้ำครับ


 


 


                มาถึงตรงนี้  ที่หนักอีกอย่างคงจะเป็นพวกมอเตอร์ไฟฟ้าของกระจกไฟฟ้า  ทีท่นั่งปรับไฟฟ้า  และเสาอากาศไฟฟ้า  ตรงนี้อาจถึงกับต้องเปลี่ยนเพราะซ่อมยากไปก็ได้ครับ  หลายสตางค์อยู่เหมือนกัน  เพราะฉนั้นอย่าเที่ยวได้ขับรถลงไปแช่น้ำเล่น  ไม่สนุกเลยเมื่อขึ้นมาได้


 


 


                หมดพวกราคาแพงและเป้นปัญหาได้มาก  ก็ถึงส่วนที่มีปัญหาได้ในระดับรองลงมา  จะเปลี่ยนหรือซ่อมก็ต้องตรวจสภาพกันดูทุกส่วน  อย่าวางใจละเว้นละเป็นดี


 


 


                เริ่มที่แผ่นคลัตช์  จานคลัตช์  ลูกปืนคลัตช์  บางทีพอน้ำแห้งอาจจะทำท่าว่าใช้งานได้เหมือนเดิม  ซึ่งไม่มีทางเป็นไปได้เท่าไรนัก  ใช้ไปไม่เท่าไรมักจะมีเสียง  และเริ่มแสดงอาการของปัญหาเกียร์เข้ายากขึ้นมาให้พบได้เสมอ


 


 


                แร็กพวงมาลัย  โดยเฉพาะพวกของพาวเวอร์ก็เป็นอีกอย่างหนึ่งทที่ต้องตรวจเช็ก  แม้จะเป็นความเป็นไปได้ที่จะเสียหายเป็นรองของที่บอกมาแล้วในตอนต้น  ก็มีโอกาสเสียหายได้  รวมทั้งช็กอัพตัวยาวตัวสั้นที่ใช้มานานก่อนหน้ารถจมน้ำ  ชีลกันน้ำหลวมแล้ว  น้ำเข้าได้นะครับ  ควรเปลี่ยนถ้าพบความผิดปกติหรือไม่น่าไว้วางใจ


 


 


                รีเลย์  เซ็นเซอร์ต่าง ๆ สวิตช์ไฟ  และกล่องฟิวส์ก็ต้องได้รับการตรวจเช็กให้แน่ใจว่าไม่มีอะไรเสียหาย   ยังทำงานได้ดี  โดยเฉพาะกล่องฟิวส์ต้องลงดินได้ดีเช่นเดิมถ้าเกิดมีการจมน้ำอยู่ระยะหนึ่ง  เอาแค่วันเดียวหรือหลายชั่วโมงก็ไม่ดีแล้วนะครับ


 


 


                จานจ่ายนี่ก็ตัวดี  ถ้าเป็นแบบใช้ทองขาวยังไม่เท่าไร   แต่เบรกทรานซิสเตอร์ขึ้นมานี่  บางทีถึงต้องเปลี่ยนกันเลยทีเดียว  เพราะต่อไปมักทำให้เครื่องยนต์สั่นโดยไม่ทันนึกว่ามาจากตัวนี้ได้


 


                แผงวงจรที่ผมว่าไว้ตอนแรกนั้น  พอจะล้างได้ด้วยน้ำซึ่งทำการ DEIONIZED   จากนั้นก็เอาไปอบที่ความร้อน  120  องศาฟาเรนไฮต์สัก  30  นาที  แล้วพ่นด้วยสเปรย์แล็กเกอร์เคลียร์ก่อนจะนำมาใช้ใหม่  ซึ่งก็ยังไม่แน่นักว่าจะทนทานต่อไปได้สักเพียงไร  โชคดีก็รอดตัว


 


 


คลัตช์ของแอร์คอมเพรสเซอร์ควรได้รับการตรวจเช็กว่าใช้การได้หรือไม่


               


                ดวงไฟฟ้าหน้ารถก็อย่ามองข้าม  น้ำอาจจะเข้าไปค้างอยู่  เอาออกเสียให้หมดก่อนที่จานจ่ายจะกลับบ้านเก่าเพราะน้ำทำเหตุ      ผมได้ข้อมูลนี้มาจากการตอบปัญหาเพื่อช่วยเหลือกันเองของช่างเทคนิคทั่วโลก  อันเป็นสมาชิก   IATN  หรือ  Internation  Automotive  TechnicianNetwork  ซึ่งผมก็เป็นสมาชิกหนึ่งในสามของคนไทยขณะนี้  (สิงหาคม  2540)  อยู่ด้วย ขอยกเครดิตในเรื่องนี้ให้กับคุณ  Brent Black  ผู้ก่อตั้ง  Network  และคุณ  Rob Cagen    ผู้รวบรวมคำตอบที่ตัวท่านเองถามไป  แล้วได้รับการตอบมาจากช่างเทคนิคทั่วโลก

รูปภาพที่เกี่ยวข้อง

ติชม


ต้องการให้คะแนนบทความนี้่ ?

สร้างโดย :


danoophol

สถานะ : ผู้ใช้ลงทะเบียน
ช่างยนต์